โดรน DJI รุ่นไหนดี? แนะนำโดรนถ่ายภาพ DJI ปี 2025

โดรน DJI รุ่นไหนดี? แนะนำโดรนถ่ายภาพ DJI ปี 2025

สำหรับใครที่อยากได้ภาพมุมสูงสวย ๆ ระหว่างออกทริป หรือ อยากเก็บฟุตเทจวิดีโอสุดอลังการจากมุมที่กล้องธรรมดาทำไม่ได้ โดรนถ่ายภาพถือเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเปิดมุมมองใหม่ ๆ ให้กับการถ่ายรูปหรือคลิปได้เป็นอย่างดี และเมื่อพูดถึงโดรน แบรนด์ที่หลายคนนึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ คงหนีไม่พ้น DJI

แต่ด้วยรุ่นที่มีให้เลือกหลากหลาย แล้วจะเลือกโดรน DJI รุ่นไหนดีให้เหมาะกับสไตล์การใช้งานของเรา?บทความนี้ฟอร์จูนทาวน์ได้คัด 5 โดรน DJI ที่น่าใช้งานในปี 2025 มาให้ พร้อมสรุปสเปก จุดเด่น และฟีเจอร์สำคัญของแต่ละรุ่น เพื่อช่วยให้ทั้งมือใหม่และมืออาชีพตัดสินใจเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น

.

วิธีเลือกโดรน DJI ให้เหมาะกับการใช้งาน

ก่อนตัดสินใจซื้อโดรน DJI แนะนำว่าควรตั้งธงในใจไว้ก่อนว่า เราจะใช้งานโดรนทำอะไร เพื่ออะไร? ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพท่องเที่ยว ถ่ายวิดีโอแบบมืออาชีพ หรือ แค่ต้องการเริ่มต้นลองเล่น เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลต่อการเลือกรุ่นที่เหมาะสม รวมถึงงบประมาณ และมีปัจจัยหลักในการเลือกโดรน ที่ควรพิจารณา ดังนี้ 

เลือกจากความละเอียด

  • 4K (3840×2160) เป็นความละเอียดมาตรฐานสำหรับงานวิดีโอระดับมืออาชีพ หรือ ยูทูบเบอร์
  • 1080p (Full HD) เพียงพอสำหรับงานทั่วไป มือใหม่เพิ่งเริ่มต้น หรือ คนที่อยากลองเล่นโดรน 

แต่แนะนำว่า ในปัจจุบันควรเลือกความละเอียดที่ 4K ขึ้นไป เพราะยิ่งความละเอียดสูง ภาพก็ยิ่งคมชัด และสามารถนำไปตัดต่อหรือซูมภาพได้โดยไม่เสียคุณภาพ

เลือกจากอัตราเฟรมเรต (fps)

  • 30 fps เพียงพอสำหรับการถ่ายวิดีโอทั่วไป แต่หากต้องการความสมูทของภาพ หรือ ต้องนำภาพไปทำสโลว์โมชัน ควรเลือก 60 fps หรือ มากกว่า

เลือกจากขนาดเซนเซอร์กล้อง

ขนาดของเซนเซอร์มีผลกับคุณภาพของภาพในที่แสงน้อย

  • เซนเซอร์ขนาด 1 นิ้วขึ้นไป ให้ภาพสวย คมชัด เหมาะกับการถ่ายภาพคุณภาพสูง
  • เซนเซอร์ขนาดเล็ก เช่น 1/2.3 นิ้ว พบในโดรนรุ่นเริ่มต้น ราคาประหยัด ภาพอาจไม่ชัดเท่าที่ควรในที่แสงน้อย

เลือกจากระบบกันสั่น

หากโดรนมี Gimbal แบบ 3 แกน จะช่วยให้ภาพที่ได้มีความนิ่ง ลดการสั่นไหว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายวิดีโอคุณภาพสูง

เลือกจากระยะเวลาในการบินและความจุแบตเตอรี่

  • หากใช้โดรนถ่ายภาพในระยะเวลาไม่นาน รุ่นที่บินได้ประมาณ 20–30 นาทีต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ก็เพียงพอ แต่หากต้องใช้เวลาถ่ายนาน แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีเวลาบินเกิน 30 นาทีขึ้นไป
  • ควรมีความจุแบตเตอรี่ 2,000 mAh ขึ้นไป และหากมีแบตสำรองเปลี่ยนระหว่างใช้งานได้จะสะดวกมาก

เลือกจากน้ำหนักและขนาดของตัวโดรน

  • โดรนน้ำหนักเบา น้อยกว่า 249 กรัม เหมาะสำหรับคนที่เดินทางบ่อย เพราะพกพาสะดวก และไม่ต้องลงทะเบียนในหลายประเทศ
  • หากต้องการใช้บินในพื้นที่ลมแรง เช่น บนภูเขา หรือ ชายหาด แนะนำให้เลือกโดรนขนาดกลางถึงใหญ่ ที่มีความเสถียรและควบคุมได้แม่นยำมากกว่า

เลือกจากระบบหลบสิ่งกีดขวาง

โดรนรุ่นที่มีเซนเซอร์รอบตัว ทั้งด้านหน้า ด้านหลัง และด้านล่าง จะช่วยให้การบินปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับมือใหม่

เลือกจากฟีเจอร์อัตโนมัติ

  • Follow Me หรือ Active Track ให้โดรนติดตามวัตถุหรือคนโดยอัตโนมัติ
  • Return to Home (RTH) โดรนจะบินกลับเองเมื่อแบตเตอรี่ต่ำหรือสัญญาณขาดหายไป
  • Waypoint หรือ Quickshot สั่งถ่ายวิดีโอในหลายมุมแบบอัตโนมัติ เหมาะสำหรับคอนเทนต์ที่ต้องการความหลากหลายของมุมภาพ

.

5 รุ่นโดรน DJI แนะนำ ปี 2025 พร้อมเปิดสเปกและจุดเด่น

1. โดรน DJI Mini 2 SE ราคาเริ่มต้น 8,900 – 12,900 บาท 

โดรน DJI Mini 2 SE ราคาเริ่มต้น 8,900 - 12,900 บาท 
ภาพจาก www.zoomcamera.net

หากเป็นคนที่เพิ่งเริ่มเข้าวงการโดรน อยากลองใช้โดรนสักตัวโดยไม่ต้องลงทุนสูงเกินไป DJI Mini 2 SE ถือเป็นโดรน DJI ที่ตอบโจทย์และคุ้มค่า ทั้งในด้านราคา ขนาด และฟังก์ชันที่เพียงพอต่อการใช้งานเบื้องต้น

สเปกหลักและจุดเด่น

  • น้ำหนักเบาเพียง 246 กรัม เบา สะดวกต่อการพกพา ไม่ต้องลงทะเบียนในหลายประเทศ
  • ขนาดเล็กแต่บินนิ่ง เพราะมาพร้อม GPS และระบบช่วยทรงตัว ทำให้บินได้มั่นคงในลมไม่แรง
  • กล้องความละเอียด 12MP พร้อมวิดีโอระดับ Full HD 2.7K
  • เวลาบินต่อรอบสูงสุดนานประมาณ 31 นาที ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
  • ระบบควบคุมง่าย ผ่านแอป DJI Fly เหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากเริ่มบินได้ทันที โดยไม่ต้องตั้งค่าซับซ้อน
  • มีระบบส่งสัญญาณ DJI OcuSync 2.0 ควบคุมได้ไกลสูงสุด 10 กม.
  • รองรับฟีเจอร์ QuickShots เช่น Dronie, Helix, Rocket และ Circle
  • ราคาจับต้องได้ ในงบไม่เกินหมื่นกลาง ๆ หากเลือกชุด Fly More Combo ก็จะได้แบตเตอรี่ กระเป๋า ใบพัดเพิ่ม

เหมาะกับใคร

  • คนที่เพิ่งเริ่มต้นใช้งานโดรน 
  • สายท่องเที่ยวที่ต้องการโดรนขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาสะดวก 
  • คอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่ต้องการวิดีโอสำหรับลงโซเชียล

.

2. โดรน DJI Avata 2 ราคาเริ่มต้น 14,900 – 34,600 บาท

โดรน DJI Avata 2 ราคาเริ่มต้น 14,900 - 34,600 บาท
ภาพจาก www.zoomcamera.net 

หากเบื่อมุมกล้องเดิม ๆ อยากได้วิดีโอแนวใหม่ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้บินเอง DJI Avata 2 คือ คำตอบ เพราะนี่คือโดรน FPV ที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายขึ้น เหมาะกับคนที่มีประสบการณ์ในการบินโดรนมาก่อน และอยากเริ่มต้นในสาย FPV หรือ คนที่อยากสร้างความสนุกเร้าใจให้กับวิดีโอ

สเปกหลักและจุดเด่น

  • น้ำหนักประมาณ 377 กรัม ยังถือว่าน้ำหนักเบาพอที่จะพกพา แต่ยังได้ความเสถียรในการบินแบบ FPV
  • กล้อง 1/1.3” CMOS Sensor ความละเอียดสูง รองรับวิดีโอ 4K/60fps ให้ภาพคมชัด สมจริง พร้อมรองรับ RockSteady 3.0 และ HorizonSteady ป้องกันการสั่นไหวระหว่างบินได้อย่างยอดเยี่ยม
  • เวลาบินต่อรอบประมาณ 23 นาที ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง เพียงพอสำหรับการถ่ายคลิป FPV หลายช็อต
  • ระบบส่งสัญญาณ DJI O4 (OcuSync 4.0) เชื่อมต่อได้ไกลขึ้น ภาพคมชัด ตอบสนองได้แม่นยำ
  • ควบคุมผ่าน DJI Motion Controller 2 บังคับทิศทางด้วยมือเสมือนเล่นเกม ง่าย และสนุกกว่าจอยปกติ
  • ใช้งานร่วมกับ DJI Goggles 3 มองภาพจากมุมกล้องแบบ First Person เหมือนได้บินอยู่บนฟ้าจริง ๆ
  • มีโครงกันชนรอบใบพัดในตัว ปลอดภัยมากขึ้นเมื่อต้องบินในพื้นที่แคบ เช่น ภายในอาคาร หรือ ลัดเลาะสิ่งกีดขวาง

เหมาะกับใคร

  • ครีเอเตอร์สายวิดีโอที่อยากเพิ่มมุมมองแบบ FPV แบบในภาพยนตร์ หรือ อยากได้วิดีโอที่เร้าความรู้สึกของคนดูให้อินไปกับฉาก 
  • คนที่เคยมีประสบการณ์บินโดรนแล้ว และอยากได้ความสนุกในการบินโดรนมากขึ้น

.

3. โดรน DJI Mini 4 Pro ราคาเริ่มต้น 25,690 – 37,390 บาท

โดรน DJI Mini 4 Pro ราคาเริ่มต้น 25,690 - 37,390 บาท
ภาพจาก www.ec-mall.com 

แม้จะอยู่ในซีรีส์ Mini ของโดรน DJI แต่ DJI Mini 4 Pro ถือเป็นโดรนรุ่นเล็ก ที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีแบบจัดเต็ม ทั้งเซ็นเซอร์กล้องคุณภาพสูง ระบบกันชนรอบตัว โหมดติดตามวัตถุอัตโนมัติ ไปจนถึงการถ่ายวิดีโอแบบ HDR และเกรดสีได้ในระดับ 10-bit จึงเหมาะสำหรับมือใหม่ที่เริ่มมีงบประมาณเพียงพอต่อการลงทุน หรือ มืออาชีพที่ต้องการโดรนสำรอง ฟังก์ชันครบครัน และพกพาง่าย

สเปกหลักและจุดเด่น

  • น้ำหนักเบากว่า 249 กรัม ไม่ต้องลงทะเบียนในหลายประเทศ สะดวกในการพกพา เดินทางง่าย
  • กล้อง 1/1.3” CMOS ความละเอียด 48MP ถ่ายภาพนิ่งคมชัด และรองรับวิดีโอ 4K/60fps HDR
  • รองรับวิดีโอแบบ 10-bit D-Log M และ HLG สำหรับการเกรดสีระดับมืออาชีพ
  • เวลาบินสูงสุดประมาณ 34 นาที ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และสูงสุด 45 นาที หากใช้ Intelligent Flight Battery Plus
  • ระบบส่งสัญญาณ OcuSync 4.0 สัญญาณไกลสุดถึง 20 กม. และคุณภาพสัญญาณเสถียรกว่าเดิม
  • มาพร้อมระบบ กันชนรอบทิศทาง (Omnidirectional Obstacle Sensing) ลดความเสี่ยงชนสิ่งกีดขวาง
  • รองรับฟีเจอร์อัจฉริยะ เช่น 
    • ActiveTrack 360° ติดตามวัตถุอัตโนมัติ
    • Waypoint Flight Mode กำหนดเส้นทางบินล่วงหน้า
    • MasterShots & QuickShots ถ่ายคลิปอัตโนมัติในหลากหลายมุม
    • Smart RTH พร้อมหลบหลีกสิ่งกีดขวาง

เหมาะกับใคร

  • มือใหม่สายจริงจังและมีงบประมาณเริ่มต้น 20,000 – 30,000 บาท ที่อยากเริ่มต้นแบบไม่ต้องคอยอัปเกรดหลายรอบ
  • สายท่องเที่ยว หรือ Vlogger ที่ต้องการโดรนพกพาง่ายแต่ให้ภาพคุณภาพสูง และอยากได้ฟุตเทจแบบมืออาชีพด้วยโดรนที่ใช้งานง่าย
  • ช่างภาพสายโดรนแบบมืออาชีพ ที่ต้องการโดรนสำรองฟังก์ชันครบ ลูกเล่นเยอะ มีความคล่องตัว

.

4. โดรน DJI Air 3 ราคาเริ่มต้น 27,990 – 38,790 บาท

 โดรน DJI Air 3 ราคาเริ่มต้น 27,990 - 38,790 บาท
ภาพจาก www.ec-mall.com 

หากกำลังมองหาโดรนที่อยู่กึ่งกลางระหว่างรุ่นเล็กพกง่ายกับรุ่นใหญ่สายโปร และยังต้องการประสิทธิภาพแบบบินแล้วจบ ไม่ต้องอัปเกรดบ่อย DJI Air 3 คือ ตัวเลือกที่สมดุลที่สุดในกลุ่มโดรนระดับกลางของ DJI ในปี 2025

เพราะ Air 3 เป็นโดรนรุ่นแรกของซีรีส์ Air ที่มาพร้อม กล้องคู่ในตัว ทำให้คุณถ่ายได้ทั้งมุมกว้าง (Wide) และมุมซูมแบบ Tele โดยไม่ต้องเปลี่ยนเลนส์หรือเข้าใกล้วัตถุ เหมาะสำหรับทั้งสายเที่ยว สายวิดีโอ และครีเอเตอร์ที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง

สเปกหลักและจุดเด่น

  • น้ำหนักประมาณ 720 กรัม ค่อนข้างมีน้ำหนัก แต่ให้ความแข็งแรง บินนิ่ง แม้เจอลมแรง
  • กล้องคู่ ได้แก่ กล้องหลัก 24 mm. (Wide) และ กล้องรอง 70 mm. (Tele) โดยทั้งสองตัวใช้เซ็นเซอร์ 1/1.3” CMOS ความละเอียด 48MP
  • รองรับวิดีโอ 4K สูงสุด 100fps และ 10-bit D-Log M / HLG
  • เวลาบินสูงสุดถึง 46 นาที ต่อแบตเตอรี่ 1 ก้อน
  • ระบบส่งภาพ OcuSync 4.0 เสถียรและควบคุมไกลสูงสุด 20 กม.
    ระบบกันชนรอบทิศทาง (Omnidirectional Obstacle Sensing) ตรวจจับสิ่งกีดขวางได้ทุกมุม
  • มีฟีเจอร์อัตโนมัติหลากหลาย 
    • ActiveTrack / Spotlight / POI โฟกัสและติดตามวัตถุ
    • Waypoint Flight บินตามเส้นทางกำหนด
    • QuickShots / MasterShots ถ่ายคลิปอัตโนมัติหลายมุม
    • Smart RTH พร้อมหลบหลีกสิ่งกีดขวางระหว่างกลับจุดเริ่มต้น

เหมาะกับใคร

  • คนที่อยากอัปเกรดจากโดรน DJI รุ่น Mini หรือ รุ่นเริ่มต้น
  • สายคอนเทนต์ที่เน้นคุณภาพวิดีโอและต้องการมุมกล้องหลากหลาย
  • ช่างภาพหรือวิดีโอที่ต้องการความมั่นใจทั้งด้านการบินและภาพ
  • สายเที่ยวจริงจังที่อยากได้โดรนไว้ใช้ระยะยาว

.

5. โดรน DJI Mavic 4 Pro ราคาเริ่มต้น 73,990 – 120,490 บาท

DJI Mavic 4 Pro ราคาเริ่มต้น 73,990 - 120,490 บาท
ภาพจาก www.ec-mall.com 

หากกำลังมองหาโดรน DJI ที่ใช้กล้องระดับภาพยนตร์ ระบบบินอัจฉริยะขั้นสูง และฟีเจอร์จัดเต็มสำหรับการถ่ายทำ DJI Mavic 4 Pro คือ โดรน DJI ที่มาแรงในวงการโดรนระดับมืออาชีพแห่งปี 2025

Mavic 4 Pro ได้รับการพัฒนาให้เหนือกว่ารุ่นก่อนหน้า ทั้งด้านกล้อง การควบคุม ความปลอดภัย และการประมวลผลไฟล์ รองรับงานวิดีโอระดับโปรดักชัน รวมถึงงานที่ต้องการความละเอียดสูง เช่น โฆษณา สารคดี และภาพยนตร์ 

สเปกหลักและจุดเด่น

  • เซ็นเซอร์กล้อง Hasselblad 4/3” CMOS ขนาดใหญ่ ให้ภาพคมชัด สีเที่ยงตรง และเก็บรายละเอียดได้ยอดเยี่ยม แม้ในสภาพแสงน้อย
  • รองรับวิดีโอความละเอียดสูงสุด 5.1K/60fps DCI 4K/120fps พร้อม 10-bit D-Log M และ Apple ProRes สำหรับงานตัดต่อขั้นสูง
  • กล้อง Telephoto (ซูม) ความละเอียด 48MP ถ่ายระยะไกลได้ชัดโดยไม่ต้องบินเข้าใกล้
  • เวลาบินสูงสุดประมาณ 45–50 นาที
  • ระบบส่งสัญญาณ OcuSync 4.0 หรือ DJI Transmission เสถียร คมชัด ระยะไกล
  • ระบบ Omnidirectional Obstacle Avoidance แบบ AI รุ่นล่าสุด หลีกสิ่งกีดขวางรอบทิศทางแบบแม่นยำ
  • ฟีเจอร์ขั้นสูง ได้แก่
    • ActiveTrack 360° AI ติดตามวัตถุแบบลื่นไหลในมุมที่หลากหลาย
    • Waypoint Flight Pro สร้างเส้นทางการบินแบบมืออาชีพ
    • MasterShots / QuickShots ช่วยถ่ายคลิปอัตโนมัติคุณภาพสูงในหลายมุม
    • Smart RTH / Terrain Follow / Cruise Control

เหมาะกับใคร?

  • มืออาชีพสายภาพและวิดีโอ ที่ต้องการคุณภาพไฟล์สูงระดับ RAW หรือ ProRes
  • โปรดักชันเฮาส์ หรือ ทีมงานถ่ายทำระดับมืออาชีพ ที่ต้องการความแม่นยำ ความเสถียร และความปลอดภัย
  • สายเที่ยว หรือ สายคอนเทนต์ที่มีงบประมาณสูงและอยากยกระดับคุณภาพงานให้ใกล้เคียงกล้องภาพยนตร์

.

เปรียบเทียบสเปกและจุดเด่นของโดรน DJI ทั้ง 5 รุ่น

รุ่นDJI Mini 2 SEDJI Avata 2DJI Mini 4 ProDJI Air 3DJI Mavic 4 Pro
ราคาประมาณ฿8,900 – ฿12,900฿14,900 – ฿34,600฿25,690 – ฿37,390฿27,990 – ฿38,790฿73,990 – ฿120,490
น้ำหนัก246 กรัม377 กรัม< 249 กรัม720 กรัม~900 กรัม+
เซ็นเซอร์กล้อง1/2.3” CMOS1/1.3” CMOS1/1.3” CMOS1/1.3” CMOS (คู่)4/3” CMOS (Hasselblad) + Tele 48MP
ความละเอียดภาพนิ่ง12MP~12MP48MP48MP (ทั้ง 2 กล้อง)สูงสุด 48MP
วิดีโอสูงสุด2.7K / 30fps4K / 60fps4K / 60fps HDR / 10-bit4K / 100fps / 10-bit5.1K / 60fps, DCI 4K / 120fps, ProRes
เวลาบินสูงสุด31 นาที23 นาที34 – 45 นาที46 นาที45 – 50 นาที
ระบบกันสั่น3-Axis GimbalRockSteady 3.0 / HorizonSteady3-Axis Gimbal3-Axis Gimbal3-Axis Gimbal Pro
ระบบหลบสิ่งกีดขวางไม่มีไม่มี
(มีกันชนรอบใบพัด)
มีรอบทิศ (Omnidirectional)มีรอบทิศ (Omnidirectional)มี AI รอบทิศแบบ Pro
ฟีเจอร์อัตโนมัติQuickShotsMotion Controller, Goggles, Manual AcroActiveTrack 360°, MasterShots, WaypointActiveTrack, Spotlight, POI, WaypointActiveTrack 360° AI, Waypoint Pro, Smart RTH
ระบบส่งสัญญาณOcuSync 2.0OcuSync 4.0 (DJI O4)OcuSync 4.0OcuSync 4.0OcuSync 4.0 / DJI Transmission
เหมาะกับใคร• มือใหม่
• สายท่องเที่ยวเบา ๆ
• FPV สายตื่นเต้น• ครีเอเตอร์• มือใหม่จริงจัง
• ยูทูบเบอร์สายเที่ยว
• ยูทูบเบอร์
• คอนเทนต์มืออาชีพ
• สายโปรดักชัน โฆษณา
• มืออาชีพจริงจัง

.

ซื้อโดรน DJI ซื้อที่ไหนดี? แนะนำร้านในฟอร์จูนทาวน์

อยากลองสัมผัสโดรน DJI หรือ ทดลองใช้งานจริง สามารถเดินทางมาสัมผัสหรือชมสินค้าตัวจริงได้ ที่โซน Digital Camera ชั้น 2 ภายในศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ได้ ดังนี้

BIG Camera ชั้น 2 ฟอร์จูนทาวน์
📍ร้าน BIG Camera ชั้น 2 ฟอร์จูนทาวน์
ร้าน Digital2Home ชั้น 2 ฟอร์จูนทาวน์
📍ร้าน Digital2Home ชั้น 2 ฟอร์จูนทาวน์
EC MALL ชั้น 2 และ 4
📍ร้าน EC MALL ชั้น 2 และ 4 ฟอร์จูนทาวน์
Snapshot ชั้น 2 ฟอร์จูนทาวน์
📍ร้าน Snapshot ชั้น 2 ฟอร์จูนทาวน์
ร้าน World Camera ชั้น 2 ฟอร์จูนทาวน์
📍ร้าน World Camera ชั้น 2
ร้าน Zoom Camera ชั้น 2 ฟอร์จูนทาวน์
📍ร้าน Zoom Camera ชั้น 2 ฟอร์จูนทาวน์

ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ (Fortune Town) เดินทางสะดวกด้วย MRT สายสีน้ำเงิน สถานีพระราม 9 ทางออก 1 เปิดบริการทุกวัน 10.00 – 22.00 น.

สรุป

หากกำลังมองหาโดรน DJI ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านการถ่ายภาพ วิดีโอ และการพกพาอยู่ สำหรับในปี 2025 นี้ มีตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นอย่าง Mini 2 SE ที่ใช้งานง่าย ราคาไม่เกินหมื่นกลาง ๆ ไปจนถึงรุ่นมืออาชีพอย่าง Mavic 4 Pro ที่รองรับวิดีโอระดับ 5.1K และกล้อง Hasselblad พร้อมระบบบินอัจฉริยะขั้นสูง รวมถึงรุ่นเด่นอย่าง Mini 4 Pro ที่มีระบบกันชนรอบทิศทาง รุ่น Avata 2 ที่เน้นคลิปแนว FPV สนุกเร้าใจ และ Air 3 ที่มีกล้องคู่ซูม-กว้างครบในตัว เหมาะกับทั้งสายเที่ยว สายวิดีโอ และมืออาชีพที่ต้องการคุณภาพและฟีเจอร์ครบจบในตัวเดียว

บทความที่เกี่ยวข้อง