หากใช้ iPhone มาสักระยะหนึ่ง และกำลังเผชิญกับปัญหาสุขภาพแบต iPhone ลดลง สงสัยไหมว่า จะรู้ได้อย่างไรว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่แล้ว?
บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักอาการสุขภาพแบต iPhone เสื่อม พร้อมเผยราคาแบตเตอรี่ทุกรุ่นประจำปี 2023
ทำความรู้จักกับสุขภาพแบต iPhone และประเภทของแบตเตอรี่
นับตั้งแต่ iPhone 5 เป็นต้นมา แบตเตอรี่ไอโฟนใช้เทคโนโลยี ‘ลิเธียมไออน’ ที่สามารถชาร์จได้อย่างรวดเร็วและใช้งานได้ยาวนาน โดยมีวิธีใช้งานแบบรอบชาร์จ ไม่ต้องรอให้มีการคายประจุ 100 เปอร์เซ็นต์ก่อนชาร์จใหม่
ยกตัวอย่างเช่น วันนี้ใช้ 70% ของความจุแบตเตอรี่ จากนั้นชาร์จให้เต็ม วันรุ่งขึ้นใช้อีก 30% จึงถือว่าคายประจุครบ 100% ทั้งหมด เรียกว่า 1 รอบการชาร์จ
โดยแบตเตอรี่ก้อนหนึ่งสามารถชาร์จและคายประจุได้ประมาณ 500 รอบ โดยประจุที่แบตเตอรี่สามารถเก็บได้ยังคงระดับให้มีปริมาณ 80% จากความจุตั้งต้น ซึ่งระดับนี้ถือว่าตัวเครื่องสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
สำหรับ ‘สุขภาพแบต iPhone’ คือ ฟีเจอร์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพแบตโดยรวมและประสิทธิภาพการทำงานของแบตเตอรี่ ทั้งนี้ผู้ใช้งานต้องอัปเดต iOS เป็นเวอร์ชัน 11.3 หรือใหม่กว่ากันก่อนจึงจะใช้ฟีเจอร์นี้ได้
10 อาการชี้สุขภาพแบต iPhone เสื่อม ถึงเวลาต้องเปลี่ยนใหม่!
สงสัยกันไหมว่าสุขภาพแบต iPhone เท่าไหร่ควรเปลี่ยนใหม่ และมีวิธีเช็กอย่างไรว่าแบตเสื่อม? นอกเหนือจากการเช็กสุขภาพแบต iPhone แล้ว ยังมีอีกหลากหลายอาการที่ผู้ใช้งานสามารถสังเกตได้ ดังนี้
1. iPhone ปิดเครื่องหรือดับไปเอง
หากจู่ ๆ โทรศัพท์ของคุณดับไปเองโดยที่แบตเตอรี่ยังเหลือเยอะอยู่ ถึงแม้จะชาร์จให้เต็มอีกครั้งก็ไม่สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้ นั่นเป็นสัญญาณถึงเวลาต้องเปลี่ยนใหม่แล้ว เนื่องจากประจุที่แบตเตอรี่สามารถเก็บได้นั้นเหลือน้อยเต็มที
ดังนั้น จึงใช้งานได้เพียงไม่นานเมื่อเทียบกับเครื่องที่เพิ่งซื้อใหม่ อย่างไรก็ตาม บางครั้ง iPhone อาจปิดเครื่องเองเนื่องจากอุณหภูมิที่สูงเกินไป แต่กรณีดังกล่าวจะสามารถใช้งาน iPhone ได้ยาวนานเช่นเดิมเมื่อเปิดเครื่องใหม่ในอุณหภูมิปกติ
2. สามารถใช้งานได้เมื่อเสียบสายชาร์จเท่านั้น
สำหรับเครื่องที่แค่ถอดปลั๊กสายชาร์จออก สักครู่ก็แบตหมดทันที ถือว่าผิดปกติ ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ทันที เนื่องจาก iPhone ไม่สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ
3. แบตเตอรี่บวม
หากแบตเตอรี่ด้านหลังเครื่องเริ่มบวมออกมาอย่างเห็นได้ชัด ควรรีบไปเปลี่ยนทันที เนื่องจากอาการแบตเตอรี่บวมอันตรายอย่างมาก ซึ่งอาการเบื้องต้นของการแบตบวมสามารถสังเกตได้จากหน้าจอแสดงผลขึ้นสีขาวขุ่นมัว หน้าจอมีสัมผัสที่นุ่มยวบลง หรือมีรอยแยกระหว่างส่วนหน้าจอและตัวเครื่อง
4. เครื่องร้อนจี๋จนจับไม่ได้
ปกติแล้วหากจับ iPhone จะไม่รู้สึกร้อนจนทนไม่ได้ เนื่องจากแบตเตอรี่ถูกออกแบบมาให้ป้องกันความร้อนจากการชาร์จภายในเครื่อง ดังนั้น ควรตรวจสอบสุขภาพแบตเตอรี่และนำไปเปลี่ยน หากมีอาการเครื่องร้อนผิดปกติ
5. สุขภาพแบต iPhone มีความจุสูงสุดต่ำกว่า 80%
สามารถเช็กความจุแบตเตอรี่ได้สำหรับ iPhone 6 และรุ่นที่ใหม่กว่า ในระบบปฏิบัติการ iOS 11.3 ขึ้นไป ได้ตามขั้นตอน ดังนี้
- การตั้งค่า (Setting)
- แบตเตอรี่ (Battery)
- สุขภาพแบตเตอรี่และการชาร์จ (ฺBattery Health & Charging)
- ความจุสูงสุด (Maximum Capacity)
เมื่อกดเข้าไปจะพบว่าความจุสูงสุดของแบตเตอรี่คือกี่เปอร์เซ็นต์ ซึ่งคำแนะนำของ Apple คือ ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่เมื่อมีความจุสูงสุดต่ำกว่า 80%
6. เปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่ไม่คงที่
หากแบตเสื่อมสามารถพบอาการเปอร์เซ็นต์แบตเพิ่มขึ้นหรือลดลงผิดปกติ เช่น มีเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่อยู่ที่ 70% ใช้งานไปสักพักก็ลดลงไปถึง 30% แล้วหมดไปเลย หรือบางครั้งหลังจากล็อกหน้าจอแล้ว ปลดล็อกมาอีกครั้งอาจมีเปอร์เซ็นต์แบตเพิ่มขึ้น
7. ข้อความแจ้งเตือนในฟีเจอร์สุขภาพแบตเตอรี่
สามารถตรวจสอบการแจ้งเตือนแนะนำได้ที่ การตั้งค่า (Setting) > แบตเตอรี่ (Battery) > สุขภาพแบตเตอรี่และการชาร์จ (ฺBattery Health & Charging) หากพบข้อความแนะนำ เช่น
“ประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด (Peak Performance Capability)
iPhone เครื่องนี้มีปัญหาในการปิดเครื่องโดยไม่คาดคิดเนื่องจากแบตเตอรี่ไม่สามารถส่งมอบพลังงานสูงสุดที่จำเป็นได้…”
เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงานและความจุสูงสุดของแบตเตอรี่ควรเปลี่ยนทันที
8. แบตเตอรี่ชาร์จเต็มเร็วผิดปกติ
แน่นอนว่าเมื่อใช้งาน iPhone ไปสักระยะสุขภาพแบตไอโฟนลดไว แถมความจุลดลง จึงทำให้ชาร์จเต็ม 100% อย่างรวดเร็ว และใช้หมดอย่างรวดเร็ว
9. Battery Health Unknown
อีกหนึ่งสัญญาณของปัญหาสุขภาพแบต iPhone คือ แจ้งเตือนในฟีเจอร์แบตเตอรี่ว่า ไม่สามารถระบุสุขภาพแบตเตอรี่ได้ (This iPhone is unable to determine battery health…) นี่เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่สามารถบอกได้ว่าถึงเวลาเปลี่ยนแบตใหม่แล้วนั่นเอง
ภาพจาก support.apple.com
10. iPhone 6 หรือรุ่นที่เก่ากว่า ช้าอย่างเห็นได้ชัด
หากคุณใช้ iPhone 6 หรือรุ่นที่เก่ากว่าแล้วมีปัญหาเครื่องช้าลงเรื่อย ๆ อาจมีปัญหามาจากสุขภาพแบต iPhone ที่ลดลงอย่างมาก พลังงานไม่เพียงพอต่อการใช้งานในส่วนประกอบต่าง ๆ ของเครื่องได้ดังเดิม ฉะนั้นจึงควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ไอโฟน6 หรือรุ่นที่นั้น ๆ เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีขึ้น
สิ่งที่ควรรู้ก่อนเปลี่ยนแบตเตอรี่ไอโฟนปี 2023
หากแบตไอโฟนมีความจุสูงสุดลดลงต่ำกว่า 80% หรือมีอาการแบตเสื่อมดังที่กล่าวมาข้างต้นเมื่อไหร่ ก็ถึงเวลานำไปเปลี่ยนแบตเตอรี่กันแล้ว อย่างนั้นมาเช็กกันก่อนดีกว่าว่า ปัจจุบันการเปลี่ยนแบตเตอรี่ iPhone แต่ละรุ่นราคาเท่าไรและเปลี่ยนที่ไหนได้บ้าง
ศูนย์เปลี่ยนแบตเตอรี่ iPhone มีที่ไหนบ้าง?
ปัจจุบันมีจุดเปลี่ยนแบตเตอรี่ iPhone กระจายอยู่หลายจุด ดังนี้
- ศูนย์ iCare และ Apple Store
สำหรับศูนย์ iCare เป็นแหล่งซ่อมผลิตภัณฑ์ของ Apple ที่มีช่างโดยตรงจากทางแบรนด์ และได้รับใบอนุญาต AASP จึงมั่นใจได้ว่าเป็นอะไหล่แท้และได้รับการดูแลอย่างถูกวิธีแน่นอน
- ศูนย์ซ่อมที่ได้รับ AASP (iService iCenter และ Imedic)
ศูนย์ซ่อมที่ได้รับอนุญาตโดยตรงจาก Apple สามารถมั่นใจเรื่องอุปกรณ์และช่างเทคนิคได้เช่นเดียวกับ iCare ด้วยการอบรมจากศูนย์ Apple และอะไหล่แท้มาตรฐานเดียวกัน
- ร้านซ่อมทั่วไป
สำหรับร้านซ่อมทั่วไปสามารถหาได้ง่าย ไม่ต้องจองคิว และอาจได้เปรียบเรื่องราคา
ราคาการเปลี่ยนแบตเตอรี่ iPhone แต่ละรุ่นอัปเดต 2023
หลังจากทราบพิกัดเปลี่ยนสุขภาพแบต iPhone ให้กลับมาเต็มประสิทธิภาพ 100% แล้ว มาเช็กราคาอัปเดตประจำปี 2023 กันเลยว่า แต่ละรุ่นทาง Apple ระบุไว้ที่เท่าไรบ้าง
- แบตเตอรี่ไอโฟน SE
ทุกรุ่นไม่ว่าจะ SE, SE (รุ่นที่ 2 ), SE (รุ่นที่ 3) ราคาประมาณ 2,590 บาท
- แบตเตอรี่ไอโฟน 7
ทุกรุ่นไม่ว่าจะ iPhone 7 หรือ 7 Plus ราคาประมาณ 2,590 บาท
- แบตเตอรี่ไอโฟน 8
ทุกรุ่นไม่ว่าจะ iPhone 8 หรือ 8 Plus ราคาประมาณ 2,590 บาท
- แบตเตอรี่ไอโฟน X, XR, XS, XS Max
ทุกรุ่นไม่ว่าจะ iPhone X, XR, XS หรือ XS Max ราคาประมาณ 3,290 บาท
- แบตเตอรี่ไอโฟน11
ทุกรุ่นไม่ว่าจะ iPhone 11, 11 Pro หรือ 11 Pro Max ราคาประมาณ 3,290 บาท
- แบตเตอรี่ไอโฟน 12
ทุกรุ่นไม่ว่าจะ iPhone 12, 12 mini, 12 Pro, 12 Pro Max ราคาประมาณ 3,290 บาท
- แบตเตอรี่ไอโฟน13
ทุกรุ่นไม่ว่าจะ iPhone 13, 13 mini, 13 Pro, 13 Pro Max ราคาประมาณ 3,290 บาท
- แบตเตอรี่ไอโฟน 14
ทุกรุ่นไม่ว่าจะ iPhone 14, 14 Plus, 14 Pro, 14 Pro Max ราคาประมาณ 3,850 บาท
ศูนย์บริการซ่อมและเปลี่ยนแบตเตอรี่ ที่ Fortune Town
หาก iPhone ของคุณมีปัญหาเรื่องสุขภาพแบตเตอรี่ สามารถปรึกษาและเปลี่ยนแบตใหม่ได้ที่ศูนย์บริการที่ Fortune Town นอกจากนี้ไม่ว่าเรื่อง iPhone ตกน้ำ หรือ พื้นที่เก็บข้อมูล iPhone เต็ม หรือปัญหาผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ก็พร้อมให้คำแนะนำเช่นกัน
📍ฟอร์จูนทาวน์: เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00 น. – 22.00 น.
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ร้านซ่อมโทรศัพท์ เผยเคล็ดลับ! 7 วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นเมื่อ iPhone ตกน้ำ
- พื้นที่จัดเก็บข้อมูล iphone เต็ม ทำอย่างไร? 7 วิธีเคลียร์พื้นที่ไอโฟน
อ้างอิง: