เชื่อว่าสาวก iPhone หลาย ๆ คน คงเคยเจอกับปัญหาโทรศัพท์คู่ใจเสียหรือใช้งานไม่ได้แล้วทั้งนั้น ซึ่งหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ iPhone เสียมากที่สุด คือการทำมือถือตกน้ำหรือเปียกน้ำนั่นเอง เพราะถ้าหากปล่อยให้น้ำหรือของเหลวเข้าไปในเครื่อง จนส่ง ร้านซ่อมโทรศัพท์ ไม่ทันจะสร้างความเสียหายให้แก่แผงวงจรภายในโทรศัพท์ ทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร หรือเครื่องดับไปเลย
แต่ไม่ต้องกังวลไป! เพราะวันนี้ทีม Fortune Town มีเคล็ดลับดี ๆ ในการรับมือเมื่อ iPhone ตกน้ำ มาฝากทุกคนกัน ช่วยให้เราสามารถรักษาโทรศัพท์ให้อยู่ในสภาพดีก่อนที่จะส่งถึงมือร้านซ่อมโทรศัพท์ ถ้าอยากรู้ว่ามีเทคนิคอะไรน่าสนใจบ้าง ตามมาอ่านในบทความนี้ได้เลย!
ร้านซ่อมโทรศัพท์ ช่วยซ่อม iPhone ตกน้ำได้ไหม?
หลายคนคงสงสัยว่า ถ้าเราทำ iPhone ตกน้ำแล้ว ยังมีโอกาสที่จะกลับมาใช้งานได้ตามปกติหรือไม่? คำตอบคือ iPhone สามารถกลับมาใช้งานตามปกติได้ ถ้าเราส่งร้านซ่อมโทรศัพท์ได้อย่างทันเวลา แต่กว่าจะถึงร้านซ่อมโทรศัพท์นั้น น้ำก็อาจจะซึมเข้าไปในตัวเครื่องจนใช้งานไม่ได้ ซึ่งหลายคนมักจะนิ่งนอนใจ คิดว่าโทรศัพท์มือถือไม่เป็นอะไร ปล่อยไว้เดี๋ยวก็แห้งเอง กว่าจะรู้ตัวอีกที iPhone ก็เสียหายจนซ่อมไม่ได้แล้ว เราจึงควรรู้จักกับวิธีแก้ไขปัญหาเบื้องต้น เมื่อ iPhone ตกน้ำ ช่วยให้ร้านซ่อมโทรศัพท์สามารถซ่อม iPhone ได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องกลัวมือถือจะเสียหายนั่นเอง
โซนร้านซ่อมโทรศัพท์ ชั้น 2 ฟอร์จูนทาวน์
iPhone ตกน้ำ Apple ไม่รับประกันในความเสียหาย
ถึงแม้การรับประกัน iPhone ของทาง Apple จะครอบคลุมหลายด้าน แต่สิ่งหนึ่งที่ Apple จะไม่รับประกันเมื่อโทรศัพท์เกิดความเสียหาย คือในกรณีที่ iPhone ตกน้ำ เปียกน้ำ หรือสัมผัสกับของเหลวทุกชนิด ดังนั้น หาก iPhone เครื่องคู่ใจตกน้ำเมื่อไหร่ ทางเดียวที่จะช่วยให้โทรศัพท์สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ คือการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเมื่อมือถือตกน้ำ และส่งซ่อมร้านซ่อมโทรศัพท์ที่เชื่อถือได้ทันที เพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดกับตัวเครื่อง
อ้างอิงข้อมูลจาก การรับประกันแบบจำกัดระยะเวลาหนึ่ง (1) ปีของ Apple
7 วิธีแก้ไข เมื่อมือถือตกน้ำจาก ร้านซ่อมโทรศัพท์
ในกรณีที่โทรศัพท์ตกน้ำ สิ่งที่เราต้องทำ คือการป้องกันเพื่อไม่ให้น้ำหรือของเหลวเข้ามาในตัวเครื่อง เพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่ออุปกรณ์ภายในโทรศัพท์ และลดความเสี่ยงในการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้ ส่วนใครที่มือถือหรือ iPhone ตกน้ำ แล้วไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร? อ่าน 7 เทคนิคดี ๆ ตามด้านล่างนี้เลย
1. รีบนำ iPhone ขึ้นจากน้ำให้เร็วที่สุด
ถึงแม้ว่า iPhone บางรุ่น เช่น iPhone XR iPhone 8 หรือ iPhone SE (รุ่นที่ 2) จะมีคุณสมบัติพิเศษในการทนทานต่อน้ำกระเด็นใส่ และป้องกันฝุ่นเป็นพิเศษ อีกทั้งยังสามารถทนต่อน้ำที่ระดับความลึกไม่เกิน 1 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาทีแล้ว แต่เราก็ไม่ควรวางใจไป เพราะไม่ว่า iPhone จะถูกน้ำกระเด็นใส่ หรือตกลงในน้ำโดยไม่ตั้งใจ หากเกิดกรณีที่น้ำไหลเข้าไปในเครื่อง ย่อมทำให้อุปกรณ์ภายในเกิดความเสียหายแน่นอน ดังนั้น สิ่งที่เราควรทำเป็นอันดับแรกเมื่อ iPhone ตกน้ำ คือการรีบนำโทรศัพท์ขึ้นจากน้ำให้เร็วที่สุด รวมถึงอย่าแช่น้ำทิ้งไว้นาน ก็จะช่วยลดความเสี่ยงป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้ามาในตัวเครื่องมากขึ้น
2. ปิดเครื่อง iPhone ทันทีที่ขึ้นจากน้ำ
ในขณะที่ iPhone ตกน้ำ ถ้าบังเอิญว่าโทรศัพท์ของเราเปิดเครื่องใช้งานอยู่ เมื่อนำโทรศัพท์ขึ้นจากน้ำแล้ว เราจะต้องรีบปิดเครื่องทันที เพื่อลดความเสี่ยงให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร หรือทำให้โทรศัพท์เกิดการช็อตได้ นอกจากนี้ หาก iPhone มีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่กับตัวเครื่อง เช่น เคสโทรศัพท์มือถือ Airpod หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่เสียบไว้กับมือถือ ก็ต้องรีบเอาออกเช่นกัน เพื่อลดโอกาสไม่ให้น้ำขังภายในตัวเครื่อง จนทำให้มือถือเกิดความเสียหายอย่างหนักนั่นเอง
3. ห้ามนำ iPhone แช่ถังข้าวสารเป็นอันขาด
หนึ่งในความเชื่อที่หลายคนมักจะทำเมื่อ iPhone ตกน้ำ คือการนำโทรศัพท์ไปแช่ในถังข้าวสารเพื่อให้ดูดความชื้นจากความเชื่อ ซึ่งวิธีนี้ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอันขาด! เพราะการนำ iPhone ไปแช่ในถังข้าวสาร อาจทำให้น้ำและของเหลวที่อยู่ภายในเครื่องเกิดการขังและไหลออกมาไม่ได้ อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้เศษข้าวสาร หรือเมล็ดข้าวเล็ก ๆ หลุดเข้าไปในเครื่องได้อีกด้วย นอกจากนี้ หากเรานำไปแช่ในถังข้าวสารแล้วปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ ก็จะเกิดการสะสมของสิ่งสกปรกและเชื้อโรคที่มากับน้ำ ทำให้ iPhone เสียหายหนักกว่าเดิม ยากที่จะแก้ไขหรือซ่อมแซมได้
4. อย่าชาร์จแบตโทรศัพท์ เมื่อ iPhone ตกน้ำ
สิ่งที่เราไม่ควรทำเป็นอันขาดเมื่อมือถือตกน้ำ คือการเสียบสายชาร์จโทรศัพท์ เนื่องจากการใช้อุปกรณ์เสริมหรือการชาร์จมือถือเมื่อเครื่องเปียกน้ำ อาจทำให้ iPhone เกิดไฟช็อต ระเบิด หรือไฟลุกไหม้ได้ อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดกระแสไฟฟ้าจากมือถือ ทำให้เป็นอันตรายต่อผู้ใช้งาน เสี่ยงในการถูกไฟฟ้าช็อตหรือดูดได้ เมื่อ iPhone ตกน้ำ ซึ่งถ้าแบตโทรศัพท์หมด เราควรรออย่างน้อย 5 ชั่วโมง จึงจะสามารถชาร์จด้วยสาย Lightning หรือเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริม Lightning ได้
5. ใช้ผ้านุ่มที่ไม่เป็นขุยเช็ด iPhone แทนการเป่าลมด้วยไดร์
จริงอยู่ที่ควรทำให้ iPhone แห้งทันทีเมื่อขึ้นจากน้ำ แต่เราไม่ควรใช้ความร้อนจากไดร์เป่าผม เป่าลมที่ iPhone เพราะความร้อนจากไดร์เป่าผม จะทำให้แผงอุปกรณ์ภายในโทรศัพท์เกิดความเสียหายได้ เราจึงควรให้ผ้านุ่มที่ไม่เป็นขุย เช่น ผ้าเช็ดเลนส์ นำมาเช็ดที่ตัวเครื่อง iPhone เบาๆ ก็จะช่วยทำให้ด้านนอกของตัวเครื่องแห้งสนิทได้ เมื่อเราเช็ด iPhone จนแห้งแล้ว เราสามารถนำ iPhone ไปผึ่งให้แห้งด้วยพัดลม ซึ่งพัดลมจะช่วยเป่าไล่ความชื้น และไม่ทำให้มือถือเกิดความเสียหายเหมือนกับการใช้ความร้อนด้วย
6. เพียงเคาะ Lightning ก็ช่วยให้ iPhone แห้งเร็วได้
อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้ iPhone แห้งเร็วขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งความร้อนจากไดร์เป่าผม คือการคว่ำขั้วต่อ Lightning ลง แล้วเคาะเบาๆ เพื่อให้น้ำที่ขังอยู่ภายในตัวเครื่อง iPhone ไหลออกมานั่นเอง โดยเราสามารถนำ iPhone ไปผึ่งให้แห้งด้วยพัดลม หรือวางในพื้นที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ก็จะช่วยให้ iPhone แห้งเร็วยิ่งขึ้น และไม่มีน้ำกักขังภายในเครื่องนั่นเอง
ข้อควรระวัง: ไม่ควรใช้ก้านสำลี กระดาษชำระ หรือผ้าที่เป็นขุยเช็ดช่อง Lightning เพราะอาจทำให้สิ่งแปลกปลอมเข้าไปในตัวเครื่อง iPhone ได้ และอาจทำให้ช่อง Lightning เกิดความเสียหายอีกด้วย
7. นำ iPhone เปียกน้ำส่ง ร้านซ่อมโทรศัพท์ ให้เร็วที่สุด!
เทคนิคทั้งหมดที่เรากล่าวไปนี้ เป็นเพียงวิธีการแก้ไขเบื้องต้นเมื่อ iPhone ตกน้ำเท่านั้น เพราะจุดที่น้ำสามารถเข้าไปในเครื่องมือถือได้ มักจะเป็นจุดที่เราเข้าไม่ถึง หรือไม่สามารถทำความสะอาดด้วยตัวเองได้ ดังนั้น เมื่อเราปฏิบัติครบทั้ง 6 ข้อที่กล่าวมาแล้ว เราควรส่งร้านซ่อมโทรศัพท์ เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยจัดการและดูแล iPhone ของเราจะดีกว่า ซึ่งวิธีง่าย ๆ ในการดูแล iPhone ตกน้ำเบื้องต้น คือ การนำมือถือออกจากน้ำ ปิดเครื่องทันที งดชาร์จแบต เช็ดด้านนอกของเครื่องให้แห้งสนิท และส่งร้านซ่อมโทรศัพท์โดยด่วน เพียงเท่านี้ มือถือของเราก็จะปลอดภัย สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ อีกทั้งยังมีอายุการใช้งานได้นาน ๆ อีกด้วย
โซนร้านซ่อมโทรศัพท์ ชั้น 2 ฟอร์จูนทาวน์
ถ้าใครทำ iPhone หรือโทรศัพท์ตกน้ำ แล้วไม่รู้ว่าจะไปซ่อมที่ไหนดี? เราขอแนะนำให้คุณมาที่โซนร้านซ่อมโทรศัพท์ ชั้น 2 ฟอร์จูนทาวน์ ที่นี่เป็นแหล่งรวมร้านซ่อมโทรศัพท์หลากหลายร้าน คุณภาพสูง พร้อมให้บริการซ่อม iPhone ของคุณได้อย่างทันใจ ด้วยราคาที่เป็นมิตร ซึ่งไม่เพียงแต่รับซ่อมโทรศัพท์ตกน้ำเท่านั้น แต่ให้บริการเปลี่ยนหน้าจอโทรศัพท์ ปลดล็อกไอดี และบริการอื่น ๆ อีกมากมาย
ร้านซ่อมโทรศัพท์ที่ ฟอร์จูนทาวน์
โดยชั้น 2 ของฟอร์จูนทาวน์นั้น เป็นแหล่งรวมร้านซ่อมโทรศัพท์ร้านดังอย่าง ร้าน AT Mobile และร้านซ่อมโทรศัพท์มือถืออีกมากมาย รวมถึงร้าน Tech Avenue ที่บริเวณ ชั้น 4 ก็สามารถช่วยให้คุณซ่อม iPhone ได้ในราคาย่อมเยา ดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านโทรศัพท์โดยเฉพาะ! ช่วยให้ iPhone ของคุณสามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ ไม่เกิดความเสียหายในอนาคตแน่นอน แนะนำให้นำ iPhone มาซ่อมได้ที่โซน ร้านซ่อมโทรศัพท์ ชั้น 2 ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ เท่านั้น!
ร้านซ่อมโทรศัพท์ AT Mobile ชั้น 2 ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์
ร้านซ่อมโทรศัพท์ Tech Avenue ชั้น 4 ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์
อ้างอิงแหล่งข้อมูลจากเว็บไซต์:
การรับประกันแบบจำกัดระยะเวลาหนึ่ง (1) ปีของ Apple
ข้อมูลเกี่ยวกับความสามารถในการทนน้ำ น้ำที่กระเด็นใส่ และฝุ่น บน iPhone
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่
10 ไอเดีย จัดโต๊ะคอมพิวเตอร์ เปลี่ยนมุมทำงานให้สวยเท่ห์ ไม่ซ้ำใคร
มัดรวมกล้องถ่ายรูป สำหรับมือใหม่ งบไม่เกิน 20,000 บาท ปี 2022