10 รุ่น โทรศัพท์เล่นเกม ลื่น ๆ ราคาถูก

รวม 10 รุ่น โทรศัพท์เล่นเกม ลื่น ๆ ราคาถูก งบ 10 ใบเทา ปี 2025

ทุกวันนี้มือถือสำหรับเล่นเกมมีให้เลือกเยอะจนถึงกับทำให้หลายคนตาลาย ซึ่งก่อนจะตัดสินใจซื้อ การศึกษาข้อมูลให้รอบด้านถือว่าสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้คุณได้ โทรศัพท์เล่นเกม ลื่น ๆ ราคาถูก ที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่สเปก ความทนทาน และราคาที่คุ้มค่า

10 รุ่น โทรศัพท์เล่นเกม ลื่น ๆ ราคาถูก

ใครที่ไม่อยากเสียเวลาค้นหาข้อมูลด้วยตัวเอง มาดูกันดีกว่าว่าวิธีพิจารณาเบื้องต้นแบบง่าย ๆ ต้องทำยังไง และโทรศัพท์ที่เล่นเกมได้ตรงใจ มีรุ่นไหนบ้างที่น่าสนใจในงบไม่เกิน 10,000 บาท

วิธีเลือกซื้อโทรศัพท์เล่นเกม

การเลือก โทรศัพท์เล่นเกม ลื่น ๆ ราคาถูก ไม่จำเป็นต้องเป็นกูรูด้านไอทีก็เลือกได้ แค่โฟกัสสิ่งเหล่านี้

  1. ชิปเซ็ตกับแรม พิจารณาว่าแรงพอสำหรับเกมที่ต้องการเล่นหรือไม่ ถ้าเป็นเกม MOBA หรือ Battle Royale แนะนำว่าควรเป็นชิปเซ็ตระดับกลางขึ้นไป และควรมีแรมอย่างน้อย 6GB จะช่วยให้เกมไม่ค้างระหว่างเล่น
  2. หน้าจอและรีเฟรชเรต ควรมีจอใหญ่ประมาณ 6.5 นิ้วขึ้นไป พร้อมรีเฟรชเรต 90Hz หรือ 120Hz จะช่วยให้ภาพกราฟิกเคลื่อนไหวลื่นไหลขึ้น เหมาะกับคนที่ชอบการใช้งานแบบไม่กระตุก 
  3. แบตเตอรี่และระบบชาร์จเร็ว การเล่นเกมนาน ๆ ทำให้แบตหมดไวเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นจึงควรเลือกรุ่นที่มีแบต 5,000mAh ขึ้นไป และถ้ามาพร้อมกับระบบชาร์จเร็ว (Fast Charge) จะสะดวกมากยิ่งขึ้น
  4. ระบบระบายความร้อน โทรศัพท์หลายรุ่นในปัจจุบันมีเทคโนโลยีช่วยระบายความร้อน ช่วยให้ถึงแม้จะเล่นเกมเป็นเวลาต่อเนื่องนาน ๆ ผู้ใช้งานก็จะรู้สึกไม่ร้อนมือและไม่กระทบกับประสิทธิภาพเครื่องอีกด้วย 
  5. งบประมาณและความคุ้มค่า การเปรียบเทียบสเปกกับฟีเจอร์ในโทรศัพท์แต่ละรุ่น จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และแม้จะมีงบเพียงแค่ 10,000 บาท ก็สามารถซื้อโทรศัพท์มือถือดี ๆ มาเล่นเกมแบบสบายใจได้

แนะนำ  10 โทรศัพท์เล่นเกม ลื่น ๆ ราคาถูก

1. Galaxy A26 5G

Galaxy A26 5G
ขอขอบคุณรูปภาพจากเว็บไซต์ https://www.samsung.com/th

เหมาะกับผู้ที่ต้องการ โทรศัพท์เล่นเกม ลื่น ๆ ราคาถูก ที่ใช้งานได้ครอบคลุม ทั้งเล่นเกมและติดต่อสื่อสารในชีวิตประจำวัน มีจุดเด่นหลายอย่าง ทั้งหน้าจอแบบ Super AMOLED ซึ่งให้ภาพสีสด คมชัด และมีอัตราการรีเฟรชที่ 120Hz ทำให้แสดงผลภาพเคลื่อนไหวในการเล่นเกมได้ไหลลื่น ไม่มีสะดุด

  • สเปก: หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว 120Hz ชิป Exynos 1380 RAM 6 – 8 GB แบตเตอรี่ 5,000mAh 
  • จุดเด่น: หน้าจอสีสด คมชัด มีระบบระบายความร้อนที่ดี ทำให้เครื่องไม่ร้อนจัดในขณะที่กำลังสนุกกับการเล่นเกม มีตัวเลือก RAM สูงสุดถึง 8GB และ ROM 256GB ทำให้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการติดตั้งเกมและการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน มีแบตเตอรี่ความจุจำนวนมากที่ใช้งานได้ยาวนาน ทำให้เล่นเกมได้ต่อเนื่องหลายชั่วโมง 
  • ราคาเริ่มต้น: 9,999 บาท

2. REALME 14T 5G

REALME 14T 5G
ขอขอบคุณรูปภาพจากเว็บไซต์ https://www.realme.com/ph

โทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ชอบใช้งานเพื่อเล่นเกมกราฟิกหนัก ๆ เป็นระยะเวลานาน โดยมีจุดเด่นที่น่าสนใจ ทั้งหน้าจอแบบ E-Sport AMOLED 120Hz ช่วยให้แสดงผลภาพกราฟิกได้ไหลลื่นและตอบสนองเร็ว มีแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 6,000mAh รองรับการเล่นเกมได้นานถึง 11.5 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

  • สเปก: หน้าจอขนาด 6.67 นิ้ว แบบ AMOLED 120Hz ชิป Dimensity 6300 RAM 8–12GB แบตเตอรี่ 6,000mAh พร้อมชาร์จไว 45W 
  • จุดเด่น: หน้าจอแบบ E-Sport AMOLED ให้ภาพสวยคมชัดเหมาะกับการเล่นเกม ปรับความสว่างหน้าจอได้สูงถึง 2,000nits ช่วยให้มองเห็นหน้าจอได้ชัดเจนแม้ในที่มีแสงจ้า มีระบบ Bypass Charging เทคโนโลยีที่ส่งพลังงานตรงไปยังเมนบอร์ดขณะเล่นเกม ทำให้เครื่องเย็นลง และช่วยถนอมแบตเตอรี่ 
  • ราคาเริ่มต้น: 8,999 บาท

3. Infinix GT 30 Pro 5G

Infinix GT 30 Pro 5G
ขอขอบคุณรูปภาพจากเว็บไซต์ https://th.infinixmobility.com/

รุ่นนี้เป็นโทรศัพท์เล่นเกม ลื่น ๆ ราคาถูก ที่ออกแบบมาเพื่อสายเกมเมอร์โดยเฉพาะ มีประสิทธิภาพสูง แต่ยังอยู่ในราคาที่จับต้องได้ มีจุดเด่นที่น่าสนใจคือ ใช้ชิป MediaTek Dimensity 8350 Ultimate และหน้าจอ AMOLED 144Hz ที่ตอบสนองเร็ว มีระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพ และแบตเตอรี่ความจุสูง เล่นเกมได้นานต่อเนื่องหลายชั่วโมง

  • สเปก: หน้าจอขนาด 6.78 นิ้ว แบบ AMOLED 120Hz ชิป Dimensity 8350 RAM 8–12GB แบตเตอรี่ 5,200mAh พร้อมชาร์จเร็ว 45w
  • จุดเด่น: หน้าจอ AMOLED 144Hz ให้ภาพสวย คมชัด ตอบสนองการสัมผัสได้รวดเร็ว รองรับเกม 120FPS เล่นเกมอย่าง ROV ได้ที่เฟรมเรตสูง มีระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพ พร้อมพัดลมเสริมแบบ MagCharge Cooler ที่ช่วยลดอุณหภูมิได้ถึง 30% พร้อมปุ่ม GT Trigger เป็นปุ่มสัมผัสด้านข้างที่ตอบสนองเร็ว ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ
  • ราคาเริ่มต้น: 9,999 บาท

4. Galaxy A17 5G

Galaxy A17 5G
ขอขอบคุณรูปภาพจากเว็บไซต์ https://www.samsung.com/th

เหมาะกับผู้ที่กำลังมองหา โทรศัพท์เล่นเกม ลื่น ๆ ราคาถูก ที่มีประสิทธิภาพคุ้มค่าในราคาประหยัด มีจุดเด่นที่น่าสนใจ ทั้งหน้าจอ Super AMOLED ความละเอียด FHD+ 90Hz ที่แสดงผลกราฟิกได้สวยงามและลื่นไหล พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5,000mAh ทำให้เล่นเกมได้ยาวนาน ไม่มีสะดุด

  • สเปก: หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว 90Hz ชิป Exynos1330 แบตเตอรี่ 5,000mAh 
  • จุดเด่น: หน้าจอ Super AMOLED 90Hz ให้ภาพที่สวยงาม สีสันสดใส สมจริง สัมผัสไหลลื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเล่นเกมที่ต้องใช้การเคลื่อนไหวเร็ว ๆ มีแบตเตอรี่ขนาด 5,000mAh ช่วยให้เล่นเกมได้ต่อเนื่องยาวนาน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดเร็ว มีหน่วยประมวลผล Octa-core 2.4 GHz ทำให้เกิดการตอบสนองอย่างรวดเร็วในการเล่นเกม
  • ราคาเริ่มต้น: 6,499 บาท

5. CMF 2 Pro 5G

CMF 2 Pro 5G
ขอขอบคุณรูปภาพจากเว็บไซต์ https://www.dotlife.store/

โทรศัพท์รุ่นนี้เป็นโทรศัพท์มือถือที่มีดีไซน์เรียบหรูไม่ซ้ำใคร ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการความแตกต่าง มีจุดเด่นที่ถูกใจสายเกมเมอร์ คือ ใช้ชิป MediaTek Dimensity 7300 Pro 5G ที่มีประสิทธิภาพสูง แสดงผลกราฟิกสวยงามคมชัด พร้อม RAM สูงสุด 16 GB และ RAM Booster ที่สามารถยืมพื้นที่เก็บข้อมูลมาใช้เป็น RAM ได้อีก 8 GB ทำให้เล่นเกมหนัก ๆ ไม่มีหน่วง และหน้าจอ AMOLED 120Hz ที่ให้ภาพสวยลื่นไหล

  • สเปก: หน้าจอแบบ AMOLED ขนาด 6.77 นิ้ว 120Hz ชิป Dimensity 7300 Pro RAM 8–16GB แบตเตอรี่ 5,000mAh 
  • จุดเด่น: หน้าจอแบบ AMOLED ความละเอียด FHD+ พร้อมรีเฟรชเรต 120Hz ทำให้ภาพกราฟิกในเกมมีความลื่นไหลและคมชัด มี RAM สูงสุด 16 GB และมีฟีเจอร์ RAM Booster ที่สามารถใช้เป็นพื้นที่เก็บข้อมูลได้เพิ่มอีก 8 GB ทำให้เล่นเกมที่มีกราฟิกสูงได้ดีขึ้น มีแบตเตอรี่ขนาด 5,000mAh  ใช้งานเล่นเกมได้ยาวนาน และรองรับระบบชาร์จไว 
  • ราคาเริ่มต้น: 8,999 บาท

6. Xiaomi Redmi Note 14 5G

Xiaomi Redmi Note 14 5G
ขอขอบคุณรูปภาพจากเว็บไซต์ https://www.mi.com/th

โทรศัพท์เล่นเกม ลื่น ๆ ราคาถูกรุ่นนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้เล่นเกมได้แบบไหลลื่น มีจุดเด่นที่น่าสนใจ โดยใช้ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 7025-Ultra ที่มีประสิทธิภาพการทำงานที่รวดเร็วและเสถียร ใช้หน้าจอแบบ AMOLED 120Hz ที่สัมผัสลื่นไหล พร้อมฟีเจอร์ Game Turbo ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกม 

  • สเปก: หน้าจอขนาด 6.67 นิ้ว แบบ AMOLED ชิป MediaTek Dimensity 7025-Ultra แบตเตอรี่ 5,110mAh พร้อมชาร์จไว 45W 
  • จุดเด่น: ใช้หน้าจอ AMOLED ความละเอียด 2400×1080 พิกเซล และอัตรารีเฟรชสูงสุดที่ 120Hz ทำให้ภาพเคลื่อนไหวสีสันสดใส สวยงาม ปรับความสว่างสูงสุดได้ 1,800nits เหมาะสำหรับการเล่นเกมในสภาพแสงแดดจัด ๆ ได้ แบตเตอรี่ความจุ 5,110mAh รองรับการเล่นเกมได้ยาวนาน มีลำโพงคู่สเตอริโอ พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos ให้คุณภาพเสียงสำหรับการเล่นเกมที่สมจริง
  • ราคาเริ่มต้น: 6,999 บาท

7. Vivo Y39 5G

Vivo Y39 5G
ขอขอบคุณรูปภาพจากเว็บไซต์ https://www.vivo.com/th

เหมาะกับคนที่ชอบเล่นเกมยาว ๆ โดยไม่ต้องชาร์จบ่อย จุดเด่นของรุ่นนี้คือ มีแบตเตอรี่ขนาดความจุ 6,500mAh ที่ช่วยให้เล่นเกมได้ยาวนาน ไม่ต้องชาร์ตบ่อย หน้าจอ 120Hz ที่ให้ภาพกราฟิกลื่นไหล รวมถึงชิปเซ็ต Snapdragon 4 Gen 2 ที่มีประสิทธิภาพดีเหมาะกับการเล่นเกม และยังมี Ultra Game Mode ช่วยเสริมประสบการณ์เพื่อสายเกมเมอร์โดยเฉพาะ

  • สเปก: หน้าจอขนาด 6.68 นิ้ว 120Hz ชิป Snapdragon 4 Gen 2 แบตเตอรี่ 6,500mAh พร้อมชาร์จไว 44W 
  • จุดเด่น: มีแบตเตอรี่ BlueVolt ความจุ 6,500mAh ใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่อง สามารถเล่นเกมได้มากกว่า 10 ชั่วโมง รองรับชาร์จเร็ว 44W ทำให้ชาร์จแบตเตอรี่ได้ 50% ในเวลาเพียง 30 นาที ปรับค่าความสว่างสูงสุดได้ 1,000nits ช่วยให้มองเห็นหน้าจอได้ชัดเจน แม้อยู่ในพื้นที่แสงจ้า มีเทคโนโลยีปกป้องดวงตาที่ช่วยลดแสงสีฟ้า พร้อมลำโพงคู่ที่ให้เสียงดังฟังชัด เพิ่มอรรถรสการเล่นเกมให้สนุกสมจริง 
  • ราคาเริ่มต้น: 7,999 บาท

8. ZTE Nubia Neo 3 GT 5G

 ZTE Nubia Neo 3 GT 5G
ขอขอบคุณรูปภาพจากเว็บไซต์ https://www.ztedevices.com/en

เหมาะกับผู้ที่อยากลองใช้ โทรศัพท์เล่นเกม ลื่น ๆ ราคาถูก และมีดีไซน์ที่ออกแบบมาเพื่อเอาใจสายเกมมิ่งโดยเฉพาะ เพิ่มความสวยงามด้วยไฟ  RGB และยังมี AI Gaming Space 3.0 ที่ช่วยปรับแต่งการตั้งค่าเกมอัตโนมัติ มีจุดเด่นที่น่าสนใจ คือ มีปุ่ม Shoulder Triggers ที่ปรับแต่งได้ง่ายสำหรับสายเกม ใช้ชิปเซ็ต Unisoc T9100 5G ที่มีประสิทธิภาพสูง หน้าจอแบบ OLED 120Hz ที่แสดงผลกราฟิกได้ลื่นไหล

  • สเปก: หน้าจอขนาด 6.68 นิ้ว แบบ AMOLED 24 120 Hz ชิป Unisoc T9100 Octa Core RAM 8 – 12 GB แบตเตอรี่ขนาด 6,000mAh
  • จุดเด่น: ใช้ชิปเซ็ต Unisoc T9100 5G SoC ที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยประหยัดพลังงาน เพื่อการเล่นเกมที่ลื่นไหล พร้อมระบบระบายความร้อน VC Cooling System ช่วยลดอุณหภูมิของเครื่อง ทำให้เล่นเกมได้ต่อเนื่องโดยไม่สูญเสียประสิทธิภาพ มี AI Gaming Space 3.0 ซึ่งสามารถปรับแต่งการตั้งค่าเกมให้เหมาะสมได้โดยอัตโนมัติ แบตเตอรี่ขนาด 6,000mAh ช่วยให้เล่นเกมได้ยาวนาน และรองรับการชาร์จไวถึง 80W
  • ราคาเริ่มต้น: 8,999 บาท

9. OPPO A3 Pro 5G

OPPO A3 Pro 5G
ขอขอบคุณรูปภาพจากเว็บไซต์ https://www.oppo.com/th

เหมาะกับผู้ที่ต้องการโทรศัพท์มือถือสำหรับการเล่นเกมที่มีฟีเจอร์ครบครัน มีจุดเด่นที่น่าสนใจคือ หน้าจอ 120Hz ให้ภาพกราฟิกลื่นไหล คมชัดสวยงามถูกใจสายเกมเมอร์ แบตเตอรี่ขนาด 5,100mAh พร้อมชาร์จไว 45W เล่นเกมได้ยาว ๆ ไม่มีสะดุด  และชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 6300 ช่วยให้ประมวลผลรวดเร็ว 

  • สเปก: หน้าจอขนาด 6.67 นิ้ว 120Hz ชิป Mediatek Dimensity 6300 Octa RAM 6–8GB แบตเตอรี่ 5,100mAh พร้อมชาร์จไว 45W 
  • จุดเด่น: หน้าจอมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz ทำให้ภาพกราฟิกในเกมมีความลื่นไหล มีฟังก์ชันเพิ่ม RAM เสมือนช่วยให้การประมวลผลเร็วขึ้น มีอัตราตอบสนองแบบทัชสกรีน 240Hz ช่วยให้การควบคุมในเกมมีความแม่นยำและตอบสนองได้รวดเร็ว มีแบตเตอรี่ความจุ 5,100mAh เล่นเกมได้ยาวนาน อารมณ์ไม่สะดุด มีระบบชาร์จไว 45W พร้อมลำโพงแบบ Ultra Volume เร่งเสียงได้สูงถึง 300% ให้เสียงดังฟังชัดถูกใจสายเกม
  • ราคาเริ่มต้น: 7,499 บาท

10. Infinix Note 50s 5G

Infinix Note 50s 5G
ขอขอบคุณรูปภาพจากเว็บไซต์ https://infinixmobiles.in/

เหมาะกับสายเกมเมอร์ที่ต้องการโทรศัพท์มือถือเล่นเกมในงบจำกัดเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่สุดประทับใจ มีจุดเด่นที่น่าสนใจคือ ใช้หน้าจอแบบ AMOLED 144Hz ที่ให้ภาพสีสันสดใส สมจริง ใช้งานลื่นไหล แบตเตอรี่ขนาด 5,200mAh พร้อมชาร์จไวถึง 45W ซึ่งช่วยให้เล่นเกมได้ต่อเนื่อง 

  • สเปก: หน้าจอแบบ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว 144Hz ชิป Dimensity 7300 RAM 6–8GB แบตเตอรี่ 5,500mAh 
  • จุดเด่น: ใช้ชิป MediaTek Dimensity 7300 Ultimate ที่รองรับ 5G ทำให้การเล่นเกมได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ มีระบบจัดการความร้อนที่ดี ทำให้เล่นเกมหนักได้ต่อเนื่องโดยเครื่องไม่ร้อนจนเกินไป แบตเตอรี่ความจุ 5,200mAh และรองรับการชาร์จไว 45W ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตหมดระหว่างเล่นเกม มี RAM สูงสุด 16GB (รวม Extended RAM) และ ROM 256GB ช่วยให้เล่นหลายแอปพร้อมกันได้โดยไม่หน่วง และเก็บเกมโปรดได้มากมาย
  • ราคาเริ่มต้น: 7,999 บาท

ตารางเปรียบเทียบโทรศัพท์มือถือเล่นเกม ลื่น ๆ ราคาถูกทั้ง 10 รุ่น 

รุ่นจุดเด่นที่น่าสนใจราคาเริ่มต้น
Galaxy A26 5Gหน้าจอสีสด คมชัด มีระบบระบายความร้อนที่ดี มีตัวเลือก RAM สูงสุดถึง 8GB และ ROM 256GB ทำให้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการติดตั้งเกมและการทำงานหลายอย่างพร้อมกันมีแบตเตอรี่ความจุสูงที่ใช้งานได้ยาวนาน 9,999
REALME 14T 5Gหน้าจอแบบ E-Sport AMOLED ให้ภาพสวยคมชัดเหมาะกับการเล่นเกม ปรับความสว่างหน้าจอได้สูงถึง 2,000nits ช่วยให้มองเห็นหน้าจอได้ชัดเจนแม้ในที่มีแสงจ้า มีระบบ Bypass Charging เทคโนโลยีที่ส่งพลังงานตรงไปยังเมนบอร์ดขณะเล่นเกม ทำให้เครื่องเย็นลงและช่วยถนอมแบตเตอรี่8,999
Infinix GT 30 Pro 5Gหน้าจอ AMOLED 144Hz ให้ภาพสวย คมชัด ตอบสนองการสัมผัสได้รวดเร็ว รองรับเกม 120FPS เล่นเกมอย่าง ROV ได้ที่เฟรมเรตสูง มีระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพ พร้อมพัดลมเสริมแบบ MagCharge Cooler มีปุ่ม GT Trigger เป็นปุ่มสัมผัสด้านข้างที่ตอบสนองเร็ว ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ9,999
Galaxy A17 5Gหน้าจอ Super AMOLED 90Hz ให้ภาพที่สวยงาม สีสันสดใส สมจริง สัมผัสไหลลื่น มีแบตเตอรี่ขนาด 5,000mAh ช่วยให้เล่นเกมได้ต่อเนื่องยาวนาน มีหน่วยประมวลผล Octa-core 2.4 GHz ทำให้เกิดการตอบสนองอย่างรวดเร็วในการเล่นเกม6,499
CMF 2 Pro 5Gหน้าจอแบบ AMOLED ความละเอียด FHD+ พร้อมรีเฟรชเรต 120Hz ทำให้ภาพกราฟิกในเกมมีความลื่นไหลและคมชัด มี RAM สูงสุด 16 GB และมีฟีเจอร์ RAM Booster ที่สามารถใช้เป็นพื้นที่เก็บข้อมูลได้เพิ่มอีก 8 GB ทำให้เล่นเกมที่มีกราฟิกสูงได้ดีขึ้น มีแบตเตอรี่ขนาด 5,000mAh  ใช้งานเล่นเกมได้ยาวนาน และรองรับระบบชาร์จไว 8,999
Xiaomi Redmi Note 14 5Gใช้หน้าจอ AMOLED ความละเอียด 2400×1080 พิกเซล และอัตรารีเฟรชสูงสุดที่ 120Hz ทำให้ภาพเคลื่อนไหวสีสันสวยงาม ปรับความสว่างสูงสุดได้ 1,800nits เหมาะสำหรับการเล่นเกมในสภาพแสงแดดจัด ๆแบตเตอรี่ความจุ 5,110mAh รองรับการเล่นเกมได้ยาวนาน มีลำโพงคู่สเตอริโอ พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos ให้คุณภาพเสียงสำหรับการเล่นเกมที่สมจริง6,999
Vivo Y39 5Gมีแบตเตอรี่ BlueVolt ความจุ 6,500mAh ใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่อง รองรับชาร์จไว 44W ปรับค่าความสว่างสูงสุดได้ 1,000nits ช่วยให้มองเห็นหน้าจอได้ชัดเจน แม้อยู่ในพื้นที่แสงจ้า มีเทคโนโลยีปกป้องดวงตาที่ช่วยลดแสงสีฟ้า มีลำโพงคู่ที่ให้เสียงดังฟังชัด เพิ่มอรรถรสการเล่นเกมให้สนุกสมจริง7,999
ZTE Nubia Neo 3 GT 5Gใช้ชิปเซ็ต Unisoc T9100 5G SoC ที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อการเล่นเกมที่ลื่นไหล มีระบบระบายความร้อน VC Cooling System ช่วยลดอุณหภูมิของเครื่อง ทำให้เล่นเกมได้ต่อเนื่องมี AI Gaming Space 3.0 ซึ่งสามารถปรับแต่งการตั้งค่าเกมให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ แบตเตอรี่ขนาด 6,000mAh ช่วยให้เล่นเกมได้ยาวนาน และรองรับการชาร์จไวถึง 80W8,999
OPPO A3 Pro 5Gหน้าจอมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz ทำให้ภาพกราฟิกในเกมมีความลื่นไหล มีฟังก์ชันเพิ่ม RAM เสมือนช่วยให้การประมวลผลเร็วขึ้น มีอัตราตอบสนองแบบทัชสกรีน 240Hz ช่วยให้การควบคุมในเกมมีความแม่นยำและตอบสนองได้รวดเร็ว มีแบตเตอรี่ความจุ 5,100mAh เล่นเกมได้ยาวนาน พร้อมระบบชาร์จไว 45W มีลำโพงแบบ Ultra Volume เร่งเสียงได้สูงถึง 300% ให้เสียงดังฟังชัดถูกใจสายเกม7,499
Infinix Note 50s 5Gใช้ชิป MediaTek Dimensity 7300 Ultimate ที่รองรับ 5G ทำให้การเล่นเกมได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ มีระบบจัดการความร้อนที่ดี ทำให้เล่นเกมหนักได้ต่อเนื่องโดยเครื่องไม่ร้อนจนเกินไปแบตเตอรี่ความจุ 5,200mAh และรองรับการชาร์จไว 45W ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตหมดระหว่างเล่นเกม มี RAM สูงสุด 16GB (รวม Extended RAM) และ ROM 256GB ช่วยให้เก็บเกมโปรดได้มากมาย7,999

พิกัดซื้อโทรศัพท์เล่นเกมที่ฟอร์จูนทาวน์

รีวิวโทรศัพท์เล่นเกม ลื่น ๆ ราคาถูก ทั้ง 10 รุ่นจากฟอร์จูนทาวน์ในวันนี้ คงช่วยให้หลายคนที่กำลังพิจารณาเปรียบเทียบ สามารถตัดสินใจได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น ไม่ต้องปวดหัว ตาลายกับข้อมูลมากมายที่ทำให้ยุ่งยากอีกต่อไป

แต่หากยังกังวล หรือต้องการรายละเอียดต่าง ๆ เพิ่มเติม อาทิ โปรโมชั่น ทางเลือกการผ่อนชำระ หรืออื่น ๆ รวมถึงต้องการทดลองใช้งานจริงดูก่อน ก็แนะนำเลยว่าอย่าพลาดที่จะแวะมาที่ ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ ศูนย์รวมสินค้าไอทีและ Gadget ต่าง ๆ แบบครบวงจร ซึ่งเรามีร้านค้าที่น่าสนใจแนะนำดังต่อไปนี้

ร้าน Banana Mobile 

ร้าน Banana Mobile

ที่ตั้ง: ชั้น 3 

โทรศัพท์: 064-159-1971

ร้าน Jaymart

ร้าน Jaymart

ที่ตั้ง: ชั้น 2 

โทรศัพท์: 02-029-0370

ร้าน Samsung Shop

ร้าน Samsung Shop

ที่ตั้ง: ชั้น 2 

โทรศัพท์: 02 656 5030 ต่อ 2262

ร้าน Mi Shop

ร้าน Mi Shop

ที่ตั้ง: ชั้น 2 

โทรศัพท์: 02-641-0770

ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ (Fortune Town) เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 10.00 – 22.00 น. และยังเดินทางสะดวกด้วย MRT สายสีน้ำเงิน สถานีพระราม 9 ทางออก 1 หรือรถโดยสาธารณะ สาย 73, 136, 137, 179, 185, 206, 514, 517 ลงป้ายฟอร์จูนทาวน์ได้เลย

📍 ฟอร์จูนทาวน์ IT Lifestyle Mall

🕙 เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00 น. – 22.00 น.

🚇 เดินทางง่ายด้วย MRT สถานีพระราม 9 ทางออก 1

คำถามที่พบบ่อย (FAQs) เกี่ยวกับการเลือกซื้อโทรศัพท์เล่นเกม ลื่น ๆ ราคาถูก

หากคุณกำลังสงสัยว่าโทรศัพท์เล่นเกมราคาประหยัดควรดูจากอะไร รุ่นไหนคุ้มที่สุด หรือชิปแบบไหนเหมาะกับเกมที่เล่นอยู่ ฟอร์จูนทาวน์ได้รวบรวม คำถามยอดฮิตที่หลายคนอยากรู้มาไว้ให้แล้ว เพื่อช่วยให้การเลือกเครื่องใหม่ของคุณง่ายขึ้น

Q1: มือถือเล่นเกมต้องดูสเปคตรงไหนเป็นหลัก?
A: ควรโฟกัสที่ชิปประมวลผล (CPU/GPU), RAM, และหน้าจอที่มีรีเฟรชเรตสูง (120Hz หรือมากกว่า) เพราะจะทำให้เล่นเกมได้ลื่นและตอบสนองไวขึ้น

Q2: มือถือเล่นเกมจำเป็นต้องใช้รุ่นแพง ๆ ไหม?
A: ไม่จำเป็นเสมอไป ถ้าเล่นเกมทั่วไปอย่าง ROV, Free Fire, PUBG โทรศัพท์มือถือราคาระดับกลาง ๆ ก็เพียงพอ แต่ถ้าเน้นเกมกราฟิกหนัก ๆ หรืออยากได้ประสบการณ์เล่นเกมที่ไหลลื่นเป็นพิเศษ รุ่นท็อปหรือรุ่นเกมมิ่งโดยเฉพาะจะตอบโจทย์กว่า

Q3: มือถือทั้ง 10 รุ่นที่แนะนำนี้ เหมาะกับใคร?
A: ถ้าเป็นคนที่ชอบเล่นเกมทั่วไป รุ่น Galaxy A26 5G, Vivo Y39 5G หรือ OPPO A3 Pro 5G ก็ถือว่าคุ้มค่า แต่ถ้าอยากได้มือถือที่เน้นความลื่นไหลและมีฟีเจอร์ใกล้เคียงมือถือเกมมิ่ง Infinix GT 30 Pro 5G หรือ ZTE Nubia Neo 3 GT 5G จะเหมาะกับการเล่นเกมมากกว่า

Q4: มือถือในลิสต์นี้ตัวไหนคุ้มค่าที่สุดในงบไม่เกิน 10,000 บาท?
A:
แต่ละรุ่นมีจุดเด่นต่างกัน เช่น Infinix GT 30 Pro 5G เด่นที่สเปกแรงและชาร์จไว, Xiaomi Redmi Note 14 5G เด่นที่สมดุลทั้งสเปกและใช้งานรอบด้าน ส่วน Galaxy A17 5G และ OPPO A3 Pro 5G จะเหมาะกับคนที่ใช้งานทั่วไปที่เล่นเกมได้ลื่นด้วย หากมองเรื่อง “ความคุ้มค่า” ในการเล่นเกมโดยตรง รุ่นของ Infinix และ ZTE จะโดดเด่นที่สุด

การเลือกโทรศัพท์เล่นเกม ลื่น ๆ ราคาถูก ไม่จำเป็นต้องคิดให้ซับซ้อน แค่โฟกัสที่ชิปเซ็ต แรม หน้าจอ รีเฟรชเรต และแบตเตอรี่ ก็เพียงพอสำหรับการเล่นเกมได้สนุกและไหลลื่นแล้ว จาก 10 รุ่นที่เราแนะนำ แต่ละรุ่นก็มีจุดแข็งที่ต่างกัน เหมาะกับงบและสไตล์การใช้งานของแต่ละคน ลองเปรียบเทียบให้ตรงกับความต้องการจริง ๆ แล้วการหามือถือไว้เล่นเกมในงบไม่เกิน 10,000 บาทก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคุณแน่นอน

บทความที่เกี่ยวข้อง