นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล - Fortune Town

Privacy Policy

Privacy Policy

เอกสารแจ้งข้อมูลการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) ฉบับนี้ (ประกาศ/ปรับปรุง) เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2564

               บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) ขอแนะนำให้ท่านทำความเข้าใจเอกสารแจ้งข้อมูลการ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) นี้ เนื่องจาก เอกสารฉบับนี้อธิบายถึงการปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น การเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้ การเปิดเผย รวมถึงสิทธิต่าง ๆ ของท่าน เป็นต้น เพื่อให้ท่านได้รับทราบถึงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ดังต่อไปนี้

บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) ในนามศูนย์การค้า ฟอร์จูนทาวน์  เป็นผู้พัฒนาและเจ้าของ ศูนย์การค้า ฟอร์จูนทาวน์ ซึ่งถือเป็นบริการ หนึ่งของบริษัท (“บริการ”) เมื่อท่านสมัครบัญชีใช้งานของบริษัทผ่าน ศูนย์การค้า ฟอร์จูนทาวน์ ท่านจะถือว่าเป็น ผู้ใช้บริการของบริษัท (“ผู้ใช้บริการ”) และในการให้บริการแก่ท่าน บริษัทมีความ จำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ดังนั้น บริษัทจึงมีจุดประสงค์ประกาศนโยบาย คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้ง เกี่ยวกับ สิทธิและหน้าที่ รวมถึงเงื่อนไขต่างๆ อันเกี่ยว เนื่องกับการเก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูล ส่วนบุคคลที่บริษัท จะดำเนินการให้ผู้ใช้บริการ ในฐานะผู้ใช้บริการรับทราบ

นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ มีผลใช้บังคับกับการให้บริการของบริษัทเท่านั้น ไม่มีผลใช้บังคับ กับ แอปพลิเคชั่นและบริการหรือเว็บไซต์อื่นๆ ที่อาจมีการเชื่อมต่อ ซึ่งเป็นของบุคคลภายนอก ที่บริษัทไม่มี อำนาจ ควบคุม และเป็นส่วนที่ผู้ใช้บริการต้องทำความตกลง และศึกษาเกี่ยวกับนโยบายข้อมูลส่วน บุคคล สำหรับ การใช้แอปพลิเคชั่น บริการ หรือเว็บไซต์ดังกล่าวแยกต่างหาก

กรณีที่ท่านไม่ประสงค์ให้บริษัทเก็บรวบรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหรือฉบับแก้ไขอื่น ๆ อาจทำให้ท่านใช้บริการ หรือทำนิติกรรมต่าง ๆ กับทางบริษัทไม่ได้ และเสียเวลาหากจะมีการขอแก้ไขข้อมูลใด ๆ ระหว่างท่านกับบริษัท เนื่องจากหากท่านไม่ยินยอมให้เก็บข้อมูล ก็จะต้องมีการขอข้อมูลและสืบค้นข้อมูลใหม่จากท่าน ทั้งนี้ การที่ผู้ใช้บริการยังคงใช้บริการของบริษัทอยู่ ผู้ใช้บริการ ดังกล่าว จะถือว่า ยอมรับนโยบายฉบับนี้เสมอ

บริษัทอาจปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ตามแต่ละระยะเวลา เพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติและกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง และให้สอดคล้องกับการให้บริการต่างๆของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทจะแจ้งให้ผู้ใช้ บริการทราบถึงการเปลี่ยนแปลงด้วยการประกาศนโยบายฉบับปรับปรุงใหม่ให้ผู้ใช้บริการทราบ โดย นโยบาย นั้นจะถือว่ามีผลบังคับใช้ เมื่อบริษัทได้ประกาศ

ลักษณะข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทประมวลผลในการให้บริการของบริษัท

ในการให้บริการ บริษัทจะเก็บรวบรวม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล จากการที่ผู้ใช้บริการดำเนิน การผ่านระบบการให้บริการ ดังต่อไปนี้

ข้อมูลที่บ่งชี้ตัวตนโดยตรง อาทิ ชื่อ อายุ สัญชาติ วันเกิด

ข้อมูลการติดต่อ อาทิ ที่อยู่ สถานที่ติดต่อ เบอร์โทร อีเมล

ข้อมูลการชำระเงิน อาทิ รายละเอียดการชำระเงิน บัตรเครดิต และบัญชีธนาคาร

ข้อมูลการใช้บริการ อาทิ ชื่อบัญชีผู้ใช้ รหัสผ่าน ประวัติการทำธุรกรรมต่างๆ ที่ผู้ใช้บริการ ดำเนินการ รวมถึง ความสนใจของต่างๆของผู้ใช้บริการ

ข้อมูลทางเทคนิคในการระบุตัวตน อาทิ หมายเลขระบุตำแหน่งคอมพิวเตอร์ (IP Address) ข้อมูลการใช้งาน การตั้งค่าและการเชื่อมต่อบราวเซอร์ของอุปกรณ์ที่ผู้ใช้บริการ ใช้ในการใช้ บริการของบริษัท

วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูล

บริษัทมีความจำเป็นเก็บ รวบรวม ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เพื่อการให้บริการที่ กำหนดและระบุไว้สำหรับแต่ละเงื่อนไขการให้บริการของบริษัท อันรวมถึง เพื่อการยืนยันตัว ตนและติดตามในการทำธุรกรรมต่างๆของผู้ใช้บริการ เพื่อการตรวจสอบเงื่อนไขการชำระเงิน ค่าบริการ เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารกับผู้ใช้บริการ เป็นต้น

บริษัทมีความจำเป็นเก็บและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เพื่อการวิเคราะห์ความสนใจ ของผู้ใช้บริการ เพื่อให้สามารถเสนอสิทธิประโยชน์หรือบริการ ตามความสนใจของผู้ใช้ บริการได้มากขึ้น หรือ เพื่อการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นระหว่างบริษัทและผู้ใช้บริการ

บริษัทมีความจำเป็นจัดเก็บและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เพื่อวัตถุประสงค์ในการ ให้บริการสนับสนุนอื่นๆ เช่น การติดต่อสอบถามข้อมูลติชมแสดงความคิดเห็นหลังการบริการ หรือ การส่งคำร้องต่างๆ

บริษัทมีความจำเป็นจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เพื่อปฏิบัติตามข้อกฎหมาย และ ระเบียบบังคับใช้ของรัฐ เช่น การจัดทำเอกสารภาษี หัก ณ ที่จ่าย หรือการดำเนินการอื่นๆ ที่กฎหมายกำหนด

ทั้งนี้ บริษัทจะเก็บและรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไว้ตลอดระยะเวลา ตราบเท่าที่ผู้ใช้ บริการยังคงเป็นผู้ใช้บริการของบริษัทอยู่ และบริษัทสงวนสิทธิเก็บข้อมูลไว้อีกเป็นระยะเวลา 3 ปีหลัง จากผู้ใช้บริการยกเลิกการใช้บริการ เพื่อประโยชน์ในการปกป้อง และต่อสู้สิทธิต่างๆของบริษัท เว้น แต่ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดให้บริษัทมีหน้าที่เก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นระยะเวลาอื่น บริษัทอาจมี ความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลไว้เป็นระยะเวลาที่ยาวนานกว่า 3 ปี

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

เพื่อการให้บริการ ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ บริษัทอาจมีความ จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ ใช้บริการ ในกรณี ดังนี้

บริษัทอาจมีความจำเป็นเปิดเผยให้แก่ผู้ให้บริการภายนอกของบริษัท ที่ได้รับการว่าจ้างจาก บริษัทให้ช่วยเหลือสนับสนุนการให้บริการของบริษัท เช่น ที่ปรึกษา ผู้รับจ้างให้บริการ ผู้รับ จ้างขนส่ง รวมถึงผู้ให้บริการภายนอกที่ให้บริการประเมินการบริการของบริษัท เช่น Google Analytics ทั้งนี้บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลเฉพาะเท่าที่จำเป็นเท่านั้น

บริษัทอาจเปิดเผยด้วยการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระบบระบบคอมพิวเตอร์ ที่ใช้บริการ ได้แก่ Google Cloud Platform

บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูล ด้วยความจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการปกป้องและต่อสู้สิทธิของบริษัท หรือเพื่อการป้องกันและตรวจสอบลักษณะการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการของบริษัท โดยผู้ใช้บริการ ในลักษณะต่างๆ โดยบริษัทจะดำเนินการดังกล่าวเท่าที่จำเป็น เท่านั้น

ในกรณีที่บริษัทมีหน้าที่ตามกฎหมาย หรืออยู่ภายใต้บังคับคำพิพากษา หรือคำสั่งของ หน่วยงานราชการ บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลให้แก่ หน่วยงานดังกล่าว เพื่อ เป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ที่มีตามกฎหมาย

Cookies ที่บริษัทใช้ในการให้บริการ

Cookies คือ text files ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้บริการ ใช้เพื่อจัดเก็บรายละเอียดข้อมูล log การ ใช้งานอินเตอร์เน็ต หรือพฤติกรรมการใช้บริการของผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ เพื่อรับประกันประสิทธิภาพใน การให้บริการของบริษัทแก่ผู้ใช้บริการ บริษัทมีความจำเป็นต้องใช้คุกกี้หลายประเภทเพื่อจุดประสงค์ ต่างกันไป ดังที่ระบุต่อไปนี้

Functionality Cookies: ใช้ในการจดจำสิ่งที่ผู้ใช้บริการเลือก หรือตั้งค่าบนแพลตฟอร์ม เช่น ชื่อบัญชีผู้ใช้ ภาษา ฟ้อนต์ และรูปแบบแพลตฟอร์ม เพื่อการนำเสนอข้อมูลที่ตรงความต้องการ เฉพาะบุคคล ให้แก่ผู้ใช้บริการได้มากขึ้น ตามการตั้งค่าต่างที่เลือกไว้

Advertising Cookies: ใช้ในการจดจำสิ่งที่ท่านเคยเยี่ยมชมและรวมถึง ลักษณะการใช้ บริการของผู้ใช้บริการ เพื่อนำเสนอสินค้า หรือบริการที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของ ผู้ใช้บริการ และใช้เพื่อการประเมินประสิทธิผลของการใช้ฟังก์ชั่นต่างๆของระบบ

Strictly Necessary Cookies เป็นคุกกี้ประเภทที่มีความจำเป็นอย่างมากต่อการทำงานเพื่อ การให้บริการของบริษัท มีความจำเป็นเพื่อให้การใช้บริการโดยผู้ใช้งานสามารถทำได้ อย่างทั่วถึงและปลอดภัย

แม้ว่าการใช้คุกกี้จะมีประโยชน์ในการเสริมประสิทธิภาพในการให้บริการ และการทำงานให้บริการ ของบริษัท แต่หากผู้ใช้บริการต้องการ ผู้ใช้บริการสามารถลบการตั้งค่าคุกกี้บน Browser ของตน เองได้ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บริการต้องรับทราบว่า การดำเนินการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อประ สิทธิภาพในการทำงานให้บริการของบริษัทได้ในบางส่วน ตามจุดประสงค์การทำงานของคุกกี้ที่ระบุไว้

คำรับประกันการดำเนินมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในข้อมูลที่เหมาะสม

บริษัทรับประกันจัดให้มีมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกัน การเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดย มิชอบ นอกจากนี้ บริษัทได้กำหนดแนวปฏิบัติภายในเพื่อกำหนดสิทธิในการเข้าถึงหรือการใช้ข้อมูล ส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อรักษาความลับ และความปลอดภัยของข้อมูล ทั้งนี้ บริษัทจะจัดให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าวเป็นระยะเพื่อความเหมาะสม ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

               1. กรณีที่ท่านยินยอมให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยวิธี ส่งเป็นจดหมาย หรือ e-mail มาทางบริษัท พร้อมกับแจ้งเหตุผลและความจำเป็นที่ขอถอนความยินยอมดังกล่าวและบริษัทได้ติดต่อกลับไปยังท่าน

               2. ท่านสามารถเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทได้ รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว โดยวิธีการส่งเป็นจดหมาย หรือ e-mail มาทางบริษัทและบริษัทได้ติดต่อกลับไปยังท่าน

               กรณีที่บริษัทได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานโดยอัตโนมัติ ท่านสามารถขอให้โอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น และขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าว

               3. ท่านสามารถขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยวิธีการส่งเป็นจดหมาย หรือ      e-mail มาทางบริษัท พร้อมแจ้งเหตุผลถึงการขอคัดค้านฯ และบริษัทได้ติดต่อกลับไปยังท่าน ในกรณีดังต่อไปนี้

3.1 บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยได้รับยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอมเนื่องจากเป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐตามที่ได้รับมอบหมาย หรือเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท เว้นแต่ บริษัทมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น หรือเป็นไปเพื่อการก่อตั้ง ปฏิบัติตาม ใช้หรือยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

3.2 บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง

3.3 บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ เว้นแต่เป็นการจำเป็นเพ่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท

               4. ท่านสามารถขอให้บริษัทลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยวิธีการ ส่งเป็นจดหมาย หรือ e-mail มายังบริษัท พร้อมแจ้งเหตุผลที่ต้องลบหรือ ทำลาย และบริษัทได้ติดต่อกลับไปยังท่าน ในกรณีดังต่อไปนี้

4.1 เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

4.2 เมื่อท่านถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และบริษัทไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ต่อไป

4.3 เมื่อท่านคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และบริษัทไม่อาจปฏิเสธคำขอ

4.4 เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลได้ถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

5. ท่านสามารถขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยวิธีการ ส่งเป็นจดหมาย หรือ e-mail มา ยังบริษัทพร้อมแจ้งเหตุผลถึงการขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และบริษัทได้ติดต่อกลับไปยังท่าน      ในกรณีดังต่อไปนี้

5.1 เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

5.2 เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

               6. ท่านสามารถตรวจสอบได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีความเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิด        ความเข้าใจผิด และหากท่านเห็นว่าข้อมูลส่วนบุคคลใดที่เกี่ยวกับท่านไม่เป็นปัจจุบัน ไม่สมบูรณ์ หรือก่อให้เกิด
ความเข้าใจผิด ท่านสามารถแจ้งบริษัท เพื่อให้แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือลบข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้ โดยวิธีการ โดยวิธีการโทรแจ้งพนักงานที่ทำการติดต่อกับท่าน หรือส่งเป็นจดหมาย หรือ e-mail มายังบริษัท

               7. กรณีที่ท่านพบ เห็นการละเมิดหรือฝ่าฝืนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท หรือเอกสารฉบับนี้    ท่านสามารถแจ้งเหตุการณ์ละเมิดหรือฝ่าฝืนได้ที่ บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) นอกจากนี้ ท่านยังมีสิทธิร้องเรียนกรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด

               เอกสารแจ้งข้อมูลการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) มีผลใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเป็นผู้เก็บรวบรวม และท่านตกลงให้บริษัทเก็บรวบรวม รักษา ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านทั้งที่มีอยู่แล้ว (ถ้ามี) ตลอดจนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทจะจัดเก็บในอนาคตภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไขของเอกสารฉบับนี้ ข้าพเจ้ายืนยันว่าได้อ่านและยอมรับเงื่อนไขตาม “เอกสารแจ้งข้อมูลการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
(Privacy Notice)” ข้างต้น

ช่องทางการติดต่อ

รายละเอียดผู้ควบคุมข้อมูล

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller)

อีเมล  : dpo@cpland.co.th 

สถานที่ติดต่อ : 313 อาคาร ซี.พี.ทาวเวอร์ ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กทม

เบอร์โทรศัพท์  :   02 247 3737  ต่อ 3017